ฝ่านรกเมืองเทวดา Bangkok Breaking Heaven and Hell (2024) เป็นออริจินัลซีรีส์ไทยจาก Netflix เล่าผ่าน ‘วันชัย’ ชายหนุ่มชนบทคนซื่อที่เข้ามาหาพี่ชายในเมืองหลวงแล้วบังเอิญได้ปฏิบัติงานเป็นข้าราชการช่วยเหลือ พบเจอด้านมืดในจังหวัดกรุงเทพมหานครที่มิได้สวยงามเสมือนสมญา เมืองฟ้าอมร
ผ่านมา 3 ปี ภาคแยกที่ชื่อ ฝ่านรกเมืองเทวดา Bangkok Breaking Heaven and Hell (2024) ถูกทำออกมาเป็นภาพยนตร์ มีระบุสตรีมไม่งพร้อมกว่า 190 ประเทศทั้งโลกในวันที่ 26 เดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ‘กรุงเทวดาธุรกิจ’ ก็เลยเชิญคุณมา exclusive talk กับ ‘โขม-ก้องเกียรติยศ โขมสิริ’ ผู้อำนวยการผลิต ผู้กำกับและก็ผู้เขียนบทที่จะมาเฉือนให้ฟังให้ถี่ถ้วนว่า แก่นของจักรวาล Bangkok Breaking เป็นอย่างไร
ทาง Netflix คิดว่าคอนเทนต์นี้ยังคงน่าดึงดูดอยู่ แม้กระนั้นอยากที่จะให้มีความเป็นแอ็กชั่นเต็มต้นแบบ ส่วนต้นเหตุที่มิได้ทำเป็นภาคต่อ แม้กระนั้นเป็น ‘ภาคแยก’ แทน เพราะว่าพวกเราดึงโลกของ ‘วันชัย’ ออกมา นักแสดงนี้ไปพบเจออันตรายต่างๆนานา วันชัยคนดีคนเดิม ถ้าหากเขาไปพบกับภัยอันตรายในเมืองหลวงที่มันเป็นด้านมืดแบบสุดขั้ว เขาจะแก้ไขปัญหาหรือรอดมาได้อย่างไร
ฝ่านรกเมืองเทวดา Bangkok Breaking Heaven and Hell (2024)
ฝ่านรกเมืองเทวดา Bangkok Breaking Heaven and Hell (2024) ซีรีส์ไทยจากทุนสร้าง Netflix โดยตรงเรื่องที่ 3 ต่อจาก เคว้งคว้างกับเด็กใหม่ฤดูกาล 2 (ฤดูกาลแรกฉายลงโทรทัศน์ก่อนมาฉายเน็ตฟลิกซ์) โดยได้ผลงานดูแลกับเขียนบทของ โขม-ก้องเกียรติยศ โขมศรี ผู้กำกับที่ถนัดแนวทริลเลอร์ สยองขวัญ หรือจนกระทั่งดราม่าหนักๆก็ยังได้ โดยมี ปราบดา หยุ่น คนเขียนที่เข้ามาแวดวงเบิกบานเต็มกำลังคราวแรกเป็นผู้อำนวยการผลิต แล้วก็ได้ 2 ดาราความสามารถ เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ กับ ออม-สุชาร์ พยายามยิ่ง มารับบทนำ โดยตัวซีรี่ส์มีความยาว 6 ตอนสุดท้ายฤดูกาล 1 ตอนละโดยประมาณ 1 ชั่วโมงเต็ม
เรื่องราวเริ่มจาก “วันชัย” ชายหนุ่มชนบทเข้ามาพระนครหนแรกเพื่อหาพี่ชายสถานที่สำหรับทำงานเป็นช่วยเหลืออยู่ตรงนี้นานแล้ว กลับจำต้องมาเจออุบัติเหตุครั้งใหญ่สูญเสียพี่ชายไปในทันทีทันใดอย่างไม่ทันตั้งตัว พร้อมด้วยทิ้งเงื่อนปัญหาเกี่ยวกับอุบัติเหตุคราวนี้ไว้ โดยในจุดเกิดเหตุเขาก็ได้เจอกับ “แคต” ผู้รายงานข่าวสายสนุกสนานที่ต้องการผันตัวมาทำข่าวสารสอบปากคำร่วมตามติดตามไขเงื่อนปัญหานี้ไปกับเขา ซึ่งในเวลาถัดมาวันชัยก็ได้เริ่มปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือสะกดรอยพี่ชาย ก่อนที่จะพบว่างานด้านอาสาสมัครนี้กลับมีเบื้องหน้าเบื้องหลังดำมิดหมีเชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจใหญ่ที่โยงใยถึงการถึงแก่กรรมของพี่ชายในอุบัติเหตุคราวนั้น
สรุป ฝ่านรกเมืองเทวดา Bangkok Breaking Heaven and Hell (2024) ถ้าเกิดผู้ใดกันแน่มุ่งมาดงานดูดีแบบสากลอินเตอร์ผ่านไปได้เลย เพราะว่ายังไม่อาจจะสลัดภาพลักษณ์กับส่วนประกอบในแบบละครไทยไปได้ แม้กระนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะมองไม่สนุก เรียกว่าผู้ที่มองละครไทยได้ไม่แอนตี้ก็สามารถมองหัวข้อนี้เพลิดเพลินๆได้แน่ๆ โดยมีจุดที่ดียิ่งกว่าละครไทยก็ตรงฉากอุบัติเหตุทั้งหลายแหล่ลงทุนสูงกระทั่งดูดีกว่าละครลงโทรทัศน์ทั่วๆไปมากมาย รวมทั้งตัวเรื่องก็ทำมาในแบบอย่างซีรีส์ฝรั่งที่ทิ้งเงื่อนอะไรบางอย่างไว้ทำต่อในฤดูกาลถัดไปเรื่อย
ถ้าดูผิวเผินกรุงเทวดาก็เปรียบได้ดั่งเมืองสวรรค์ของผู้ที่มองดูเข้ามา
หรือแม้กระทั้งนักลงทุนนักเดินทาง ภาพยนตร์ประเด็นนี้เสมือนเปิดเผยเรื่องจริงที่คนแบบพวกเราๆในประเทศบางครั้งก็อาจจะแลเห็นกันอยู่แล้วว่าคืออะไร รวมทั้งชี้แจงภาพให้กว้างแล้วก็ชัดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนมั่งมีเป็นชนชั้นที่ทำอะไรก็ไม่ผิด จะมองเห็นได้ถึงฉากที่มีการยิ่งกันบนถนนหนทางแม้กระนั้นทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง
ก็มองธรรมดาดีเสมือนไม่มีอะไร ซึ่งหลักสำคัญที่ภาพยนตร์ได้ถือมากล่าวถึงมีหลายใจความสำคัญซึ่งค่อนข้างจะในพอใจ อีกทั้งเรื่องหัวข้อคนงานที่เข้ามาดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมายฯลฯ ซึ่งคนพวกนี้ก็ชอบถูกประยุกต์ใช้แรงงานแบบไม่ถูกๆอีกทั้งเอามาค้ามนุษย์ รวมทั้งค้าอวัยวะ ภาพยนตร์ประเด็นนี้ก็กล้าที่จะแตะต้องหัวข้อนี้ หรือแม้กระทั้งการที่เอ่ยถึงปัญหาส่วนประกอบที่ถูกถกกันเป็นประจำเป็นต้นว่าการมีไว้ในครอบครองที่ดินโดยฝรั่ง หรือปัญหาด้านการไล่ที่ต่างๆที่ประชาชนคนไม่ใช่น้อยก็บางทีอาจจะเจอพบเห็นเหมือนกัน onlineparentalcontrol
จักรวาลนี้กล่าวถึง ‘มุมมืดของเมืองหลวง’ แต่ว่านักแสดง ‘วันชัย’ มันเป็นคนซื่อ ถ้าหากได้ดูตัวอย่าง วันชัยเป็น local hero เวลาเกิดเรื่องใดๆมันจะมีคนอยู่ไม่กี่จำพวก คนกรุ๊ปแรก วิ่งหนี คนกรุ๊ปหนึ่ง ถ่ายคลิป คนอีกกรุ๊ป ร้องโวยวาย คนอีกกรุ๊ป วิภาควิจารณ์ มีคนน้อยมากวิ่งเข้าไปช่วย วันชัยเป็นคนจำพวกนั้น
การที่เขาวิ่งเข้าไปช่วยมันเป็นการหาเรื่องใส่ตัว ไม่มีผู้ใดในเมืองเขาทำกันหรอก เพียงวันชัยมันยังเป็นคนอย่างนี้อยู่ มันก็เลยเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเกิดเรื่องกำเนิดราวต่างๆ
ในที่สุดแล้ววันชัยก็ยังเป็นความหวังเล็กๆของสังคม
อย่างที่มองเห็นในแบบอย่าง เมจิ (แสดงนำโดย มายด์ 4EVE) เป็นพยาบาล ถามวันชัยว่า “พี่จะต้องการเป็นวีรบุรุษอะไรหนักหนาวะ แล้วพี่ทำอย่างนี้พี่ไม่กลัวหรอ” สิ่งที่วันชัยตอบเป็น “กลัวสิ แต่ว่าถ้าเกิดมันช่วยผู้อื่นได้ด้วยมันก็คงจะดียิ่งกว่า” อันนี้เป็น คอนเซปต์ของเรื่อง
พวกเราอยู่ท่ามกลางอันตราย พวกเราอยู่ท่ามกลางความสลับซับซ้อน อื่นๆอีกมากมาย แม้กระนั้นถ้าเกิดสิ่งพวกนั้นทำให้พวกเราเปลี่ยนเป็นสิ่งที่พวกเราชัง พวกเราก็ไม่มีความต่าง แม้กระนั้นถ้าเกิดพวกเราเป็นผู้ที่ได้รับผลจากแรงชนของมัน แม้กระนั้นหากพวกเราช่วยผู้อื่นได้ด้วย มันก็คงจะดีมากยิ่งกว่า มันก็แค่นี้เอง
ดาราในเรื่องก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์น่าติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะต้องพูดว่าเป็นการรวมผู้แสดงที่เป็นรุ่นใหญ่รวมทั้งแบบใหม่ของแวดวงไว้มากอีกทั้ง ศุกลวัฒน์ คณารศ ที่มาสวมบทบาทชายหนุ่มช่วยเหลือผู้ทำอาชีพนี้เนื่องจากว่าใจรักการสู้คน คำสัญญา คุณาแขน
ที่มารับบทบาทมือสังหาร ที่ถ้าหากว่าไม่พิจารณาดีๆก็อาจจะไม่รู้เรื่องว่าเป็นเขาเพราะว่าเขาปรับลุคให้กับภาพยนตร์ประเด็นนี้เป็นอย่างมาก อาทิเช่นตยา ตรีบุดารักษา หรือมายด์ 4EVE พยาบาลฝึกฝน อดีตกาลพริตตี้ จะต้องกล่าวว่าเป็นอีกดาราที่น่าจับตาดูเลยก็ว่าได้ แล้วก็จะต้องขอสรรเสริญคณะทำงานถ่ายทำและก็ตัดต่อทำออกมาก้าวหน้ามากมาย การเล่าเรื่องรวมทั้งลำดับภาพทำให้พวกเรารู้สึกได้ถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อออกมา ยิ่งฉากตอนประชุม และก็ตอนขับขี่รถไล่กันยิ่งทำให้มีความรู้สึกว่าวงการภาพยนตร์ไทยของพวกเราปรับปรุงมากขึ้นไปอย่างชัดเจน
อย่างที่กล่าวเอาไว้ภายในช่วงต้น ฝ่านรกเมืองเทวดา Bangkok Breaking Heaven and Hell (2024) เป็นซีรีส์ที่มีโครงเรื่องออกจะสะดุดตาและก็น่าติดตามมากมายๆแต่ว่าเมื่อเรื่องราวเบาๆดำเนินไปได้ครู่หนึ่ง พวกเรากลับสัมผัสได้ถึงจุดบกพร่องของเรื่องราวที่เริ่มลดความน่าดึงดูดใจลงเรื่อย
จุดบกพร่องข้อหนึ่งที่พวกเราต้องการเอ๋ยถึงเป็น ปมของเรื่องแล้วก็ความเกี่ยวเนื่องของนักแสดง
ที่ถูกปูเอาไว้อย่างน่าดึงดูด แต่ขาดเวลาสำหรับเพื่อการชี้แจงให้ผู้ชมทำรู้เรื่อง ตัวอย่างเช่น ปัญหาของผู้แสดง ศักดา (แบงค์-ปวริศร์ มงคลวิเศษ) หนึ่งในกลุ่มช่วยเหลือจากมูลนิธิดวงใจธรรมที่ดูเหมือนจะมีความเชื่อมโยงกับพี่ชายของวันชัย รวมทั้งการขัดกันระหว่างศักดาและก็มูลนิธิรวมพลังดวงใจในอดีตกาล แต่ว่าตัวซีรีส์กลับมิได้ถือปมนี้มาขยายความให้ผู้ชมได้เห็นภาพเท่าไรนัก
หรือปัญหาในฝั่งของ แคต ผู้รายงานข่าวสาวไฟแรงจากโต๊ะเบิกบานที่ถูกสังกัดเดิมบีบคั้นไม่ให้คุณตามสืบเรื่องราวของมูลนิธิรวมพลังจิตใจ ซึ่งพวกเรามีความรู้สึกว่านี่นับว่าเป็นปัญหาที่น่าดึงดูดมากมายๆแม้กระนั้นตัวซีรีส์กลับมิได้ถือหัวข้อที่สื่อถูกอำนาจอะไรบางอย่างกดทับมาขยายความอย่างเจาะลึกซักเท่าไหร่
ประเด็นนี้เปิดตัวมาด้วยงานโปรดักชั่นที่ ดีเชียวละ ถึงจะมิได้ทำให้ร้องว้าวออกมาได้แต่ว่าสร้างความสำราญสำหรับในการมองได้ระดับหนึ่งอย่างยิ่งจริงๆ ฉากอุบัติเหตุที่เซ็ทใหญ่เหมือนจริง บอบช้ำพังฉิบหายถึงจะมีแอบตบตารวมทั้งมองเห็นช่องโหว่อยู่หลายจุดแม้กระนั้นยกโทษไปแล้วด้วยแสงสว่าง เสียง มุมกล้องถ่ายรูปที่งดงามถูกใจ กล่าวได้ว่าเป็นการมองละครไทยที่คุ้มมากไม่น้อยเลยทีเดียวกว่าละครสไตล์เดียวกันเรื่องอื่นๆ
เป็นส่วนงานโปรดักชั่นที่ทำออกมาก้าวหน้าน่ากล่าวชมเชย โดยยิ่งไปกว่านั้นฉากไฟลุกห้องแถวที่พวกเราจะได้มองเห็นฉากคล้ายอย่างนี้ในละครไทยหลายๆเรื่อง แนวทางที่ใช้สำหรับทำได้ซอฟท์กระทั่งเข้าขั้นของคำว่าสมจริงสมจังมากยิ่งกว่าละครเรื่องอื่นๆที่ทำฉากทำนองเดียวกันนี้ออกมา
ถึงจะมิได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ซะทีเดียว แม้กระนั้นหากเปรียบเทียบกับละครไทยร่วมกันจัดว่าหัวข้อนี้บรรเจิดกว่าเรื่องอื่นๆอยู่มากมายๆรวมทั้งความสมจริงสมจังที่ว่าก็อยู่ในมาตรฐานของละครทริลเลอร์ที่ไม่น่าผิดหวัง ความเหี้ยมโหดสยดสยองแบบอันเซ็นเซอร์ที่พวกเราจะสามารถพบเห็นได้ในงานช่วยเหลือก็มากันเต็มๆแบบไม่มีกั๊ก เรียกว่าคนใดที่เคยผ่านเรื่องราวกลุ่มนี้มาแล้ว อาจมีการนึกถึงเรื่องในอดีตกันบ้างละ
เมื่อการปูปัญหาแล้วก็ความเกี่ยวข้องของผู้แสดงเริ่มไม่มั่นคง มันก็เลยก่อให้เกิดผลกระทบมาถึงการคลายปัญหาด้านในเรื่องที่ดูเหมือนรวบรัดรวมทั้งเรียบง่ายเหลือเกิน อีกทั้งการพยายามตามหาข้อเท็จจริงเรื่องพี่ของวันชัยและก็แคตที่ดูเหมือนจะมีต้นเหตุมาจากความบังเอิญมากยิ่งกว่าการพยายามสอบปากคำ รวมทั้งการขัดกันระหว่างมูลนิธิรวมพลังหัวใจรวมทั้งจิตใจธรรมที่มิได้ชี้แจงให้ผู้ชมรู้เรื่องอย่างเห็นได้ชัด อื่นๆอีกมากมาย
ทั้งผองนี้ก็เลยทำให้พวกเรามีความรู้สึกว่า Bangkok Breaking
อัดแน่นไปด้วยปมแล้วก็ความเชื่อมโยงของนักแสดงที่น่าดึงดูดมากไม่น้อยเลยทีเดียวหลายข้อความสำคัญ แต่ว่าด้วยความยาวของซีรีส์ที่จำต้องเล่าใจความสำคัญทั้งผองให้จบข้างใน 6 ตอน พวกเราก็เลยมีความรู้สึกว่าด้วยข้อกำหนดที่ตรงนี้อาจจะทำให้ตัวซีรีส์ไม่สามารถที่จะนำข้อความสำคัญพวกนั้นมาขยายความให้ผู้ชมรู้เรื่องอย่างละเอียดลออแล้วก็คลายเงื่อนต่างๆได้ทุกหัวข้อ ทั้งเรื่องสำคัญของเรื่องอย่าง “อยู่เมืองนี้ อย่าทราบเยอะแยะ” ก็มิได้ถูกจับมานำเสนออย่างไม่อ้อมค้อมเท่าที่พวกเราคาดหมายไว้เสียเชิงเดียว
โลกตามความเป็นจริงของพวกเรามีทั้งคนดีและก็คนสารเลวผสมกัน โลกของละครก็ไม่มีความแตกต่างแต่ว่าข้อแตกต่างออกไปก็คือ แอ็กท้วงติงที่ยังคงความเกินเบอร์จนกระทั่งโชคร้าย ด้วยการเดินเรื่องที่มิได้ฉีกออกไปจากสูตรสำเร็จละครไทยเยอะแค่ไหนนัก พวกเรายังคงมองเห็นตัวร้ายที่แสดงสีหน้าท่าทางและก็แววตากระจ่าง เป็นติดอยู่แรกเตอร์ที่เรื่องไหนๆก็มี เรื่องไหนๆก็พบ มีบทของมิจฉาชีพในรอยเปื้อนคนดีที่รู้จักดี ถึงจะกล่าวร้ายเป็นแฟนตาซีเข้าไปในนักแสดงบางตัวแต่ว่าก็เปลี่ยนเป็นสร้างความรู้สึก เอ๊ะ เอ๊ะ ได้มากๆ
ซีรีส์ประเด็นนี้ได้ผลสำเร็จงานที่ผู้ผลิตคนประเทศไทย
หวังยกฐานะการทำงานให้เป็นสากลมองอินเตอร์แบบที่ต่างประเทศถูกใจได้ ซึ่งก็จำเป็นต้องบอกกันที่ตรงนี้เลยว่าถ้าเกิดดูในมุมนี้ตัวซีรีส์ยังไม่อาจจะสลัดภาพลักษณ์เดิมๆของละครไทยไปได้ หากใครกันแน่มุ่งมาดว่าจะได้มองซีรีส์ไทยที่มีที่มาที่ไปตรฐานสากลในระดับของงานโลคอลจาก Netflix ยังไม่ผ่าน ปิดทิ้งไม่ต้องมองเลยครับผม เพราะเหตุว่าเอาเพียงแค่ในทวีปเอเชียร่วมกันอย่าง ไต้หวัน ประเทศเกาหลี ประเทศญี่ปุ่น ประเทศฮ่องกง ผลงานจากไทยหัวข้อนี้ก็ยังไม่สามารถเทียบหรือทำให้มีความรู้สึกอินเตอร์ได้แบบงั้นจริงๆ
ฟังมองบางทีก็อาจจะรู้สึกว่าคนเขียนอคติไปรึเปล่า แม้กระนั้นเพศผู้เขียนเองก็ศึกษางานไทย ละครไทย มาเรื่อยมิได้มีอคติอะไรเลย เปรียบเทียบกันกล้วยๆหัวข้อนี้ยังไม่อาจจะทำเป็นแบบซีรีส์ประเทศเกาหลีที่รีเมคมาแล้วหลายเรื่องลงในช่องทรู อย่าง ว้อยซ์ สัมผัสเสียงมรณะ ผีป่วนปั่นมาชักชวนรัก และก็อื่นๆ
ซึ่งถ้าเกิดคนใดเคยมองมาก็จะทราบว่าของไทยที่รีเมคมาแบบช็อตต่อช็อต หากแม้มีการปรับบทเป็นอิสระยมากขึ้น แต่ว่ากลิ่นของเรื่องราว มุมกล้องถ่ายภาพ งานภาพ ส่วนประกอบหลายแบบยังรู้สึกได้ถึงความเป็นประเทศเกาหลีแบบมองอินเตอร์ ซึ่งเชิญชวนให้เปิดใจมองได้ง่ายดายกว่าละครไทยแท้ๆลงโทรทัศน์ตามเดิม แต่ว่าจำต้องกล่าวว่านี่เป็นการวัดจากมุมผู้ที่ชอบพอซีรีส์นอกเป็นหลัก ขอให้ผ่านหัวข้อนี้ไปเลยดีมากกว่า หรือจะทดลองทดลองดูสักตอนสองตอนก็ได้ คุณจะรู้สึกได้เลยว่านี่มันละครไทยชัดมากมาย กระทั่งบางทีอดขำไปกับเรื่องเหล่านี้มิได้เลยจริงๆ
ภายหลังจากมองจบก็ต้องการเชิญทุกคนไปดูจริงๆเรียกว่าเป็นภาพยนตร์ไทยที่บันเทิงใจครบรส ที่สำคัญดาราหนังพลุกพล่าน เล่าเรื่องต่างๆได้ถูกจุด ได้มองเห็นการเล่าเรื่องในทางมุมที่ไม่มีผู้ใดกล้าสัมผัสสักเท่าไหร่นัก หากแม้ในบางครั้งจะรำคาญหัวใจกับบุคลิกลักษณะของผู้แสดงนำชายที่จะเป็นคนดีอะไรขนาดนั้น แต่ว่าพอเพียงเล่าไปเรื่อยก็จะเข้าจิตใจว่าเพราะอะไรเขาถึงเป็นคนอย่างงั้น ส่วนตัวภายหลังจากมองจบให้ไป 8/10
